ความคืบหน้าเกี่ยวกับสัมปทานรังนก จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เวลา 09.30 น. บริษัทรังนกกระบี่ ซึ่งได้รับสัมปทานรังนกอีแอ่น จ.กระบี่ ได้ทำสัญญากับ ผวจ.กระบี่ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น จ.กระบี่ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับจากวันทำสัญญาเป็นต้นไป ในวงเงิน 135 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าวงเงินที่จังหวัดตั้งไว้ 3 ล้านบาท คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น จ.กระบี่ ได้ประชุมและมีความเห็นว่าบริษัทรังนกกระบี่เป็นบริษัทที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดไว้ และมีประสบการณ์ในการอนุรักษ์พันธุ์นกอีแอ่น มาเป็นเวลายาวนาน มีหลักประกันที่มั่นคง และข้อสำคัญราคาประมูลสูงกว่าราคาที่ตั้งไว้ถึง 3 ล้านบาท จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้บริษัทรังนกกระบี่ เข้าทำสัญญา รับสัมปทาน
ด้านนางกมลทิพย์ ทองฤทธิ์ ประธาน กก.บริษัทรังนกกระบี่ เปิดเผยว่า ดีใจที่ทาง จ.กระบี่ ไว้วางใจให้เข้าทำสัมปทานในครั้งนี้ สำหรับสถานการณ์รังนกอีแอ่นในปัจจุบันช่วงนี้เป็นช่วงขาลง ราคาไม่สู้ดีนัก แต่บริษัทกล้าให้วงเงินมากกว่าราคาประมูลที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการทำสัมปทานมาอย่างยาวนาน เป็นที่รู้จักในตลาดรังนก ทั้งในและต่างประเทศทั่วไป มีลูกค้าที่แน่นอน ถึงแม้ตลาดรังนกในปัจจุบันยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากตลาดรังนก ของจีนไม่ให้นำเข้า แต่ทั้งนี้ราคารังนกในตลาดจีนกลับสูงขึ้น เหตุเพราะประชาชนชาวจีนนิยมบริโภครังนกมากขึ้น แต่รังนกในสต๊อกมีน้อย อนาคตหากสามารถนำรังนกเข้าประเทศจีนได้ ราคารังนกก็จะสูงขึ้น ข้อสำคัญเป็นรังนกตามธรรมชาติเป็นนกที่เลี้ยงไม่ได้เหมือน เป็ด ไก่ ต้องใช้วิธีอนุรักษ์เท่านั้น ดังนั้นการเพิ่มประชากรนก จึงต้องมีการอนุรักษ์ แบบถาวรยั่งยืน ในอนาคตเมื่อมีผู้ต้องการ รังนก มากขึ้น แต่รังนกมีจำนวนเท่าเดิม หรือเพิ่มกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย ราคารังนกในตลาด ก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทรังนกกระบี่ ที่ได้สัมปทานรังนกอีแอ่น จ.กระบี่ ครั้งนี้เป็นบริษัทในกลุ่มของนายอภิชิต อังศุธรางกูร หรือ “เล็ก สตูล” ซึ่งมีความชำนาญเรื่องการเก็บและดูแลนกอีแอ่น โดยได้สัมปทานรังนกอีแอ่น จ.พังงา และ จ.ตรัง มาแล้วก่อนหน้านี้.
ที่มา โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 16 ต.ค. 2558 08:30
http://www.thairath.co.th/content/532679